การแปรรูปผลไม้หลากหลายชนิดส่งผลให้เกิดวัสดุเหลือทิ้งที่มีมูลค่าต่ำ เช่น เปลือกผลลิ้นจี่ เปลือกเงาะ และเปลือกเมล็ดมะขามหวาน ซึ่งการนำเศษวัสดุเหลือทิ้งนี้มาสกัดเป็นสารสกัดจะสามารถเพิ่มมูลค่าของวัสดุเหลือทิ้งนี้ได้ โดยเฉพาะสารสกัดส่วนเอธิลอะซิเตต (Ethyl Acetate) ที่มีประสิทธิภาพด้านการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่สามารถป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี
”การเตรียมสารสกัดผลไม้ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันและต่อต้านริ้วรอย” ได้รับการพัฒนาคิดค้นเพื่อเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ซึ่งสารสกัดที่ได้มีปริมาณสารฟีนอลิคสูง มีประสิทธิภาพในการยับยั้งอนุมูลอิสระได้ดี ต้านเอนไซม์อิลาสเตสและคอลลาจีเนสซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย เหมาะสำหรับใช้เป็นสารสำคัญทางเครื่องสำอางที่ต้องการคุณสมบัติป้องกันและต่อต้านการเกิดริ้วรอย สามารถทำได้ง่าย มีต้นทุนไม่แพง อีกทั้งยังเป็นการลดการนำเข้าวัตถุดิบทางเครื่องสำอางจากต่างประเทศอีกด้วย
ผู้เหมาะนำเทคโนโลยีไปลงทุน