“ราไมคอร์ไรซากล้วยไม้” เป็นราชนิดหนึ่งที่อาศัยรวมกับพืชวงศ์กล้วยไม้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ราไมคอร์ไรซากล้วยไม้ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตหลังการย้ายออกขวดและส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นกล้วยไม้ได้ โดยช่วยสร้างคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการงอกของเมล็ด ช่วยกระตุ้นการดูดซึมและลำเลียงธาตุอาหารและน้ำ ตลอดจนเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อโรคและไวรัสให้แก่ต้นกล้วยไม้ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีได้ทดสอบผลของราไมคอร์ไรซากล้วยไม้ต่ออัตราการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ลูกผสมสกุล Doritis, Callostylis bambusifolia (Lindl.) S. C. Chen & J. J. Wood, และเอื้องฟ้ามุ่ย (Vanda coerulea Griff. Ex Lindl.) พบว่า ต้นกล้วยไม้ที่เลี้ยงในวัสดุปลูกที่มีราจะมีอัตราการเจริญเติบโตสูงกว่า และเกิดโรคน้อยกว่าต้นกล้วยไม้ที่ไม่ได้เลี้ยงร่วมกับรา ทั้งยังช่วยลดการปนเปื้อนของราชนิดอื่นในวัสดุเพาะเมล็ดและวัสดุปลูก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคปลอดเชื้อ จึงไม่ต้องอาศัยห้องปฏิบัติการและตู้ปลอดเชื้อ อีกทั้งวิธีนี้ไม่ต้องใช้อาหารที่มีการเติมน้ำตาลหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูงจึงสามารถลดปัญหาการปนเปื้อนได้
เทคนิค “การเพาะเมล็ดด้วยราไมคอร์ไรซากล้วยไม้ (symbiotic seed germination)” ได้รับการพัฒนาคิดค้นเพื่อทดแทนวิธีการเพาะเมล็ดกล้วยไม้บนอาหารสังเคราะห์ในรูปแบบเดิม ซึ่งช่วยให้เมล็ดกล้วยไม้เจริญเติบโตได้รวดเร็วกว่าการเพาะเมล็ดบนอาหารสังเคราะห์ มี 3 ขั้นตอนหลัก คือ 1) การแยกราไมคอร์ไรซาจากกล้วยไม้เพื่อให้ได้เชื้อราไมคอร์ไรซาบริสุทธิ์ 2) การเลี้ยงเชื้อราไมคอร์ไรซาบนวัสดุปลูกกล้วยไม้ และ 3) การเพาะเมล็ดกล้วยไม้บนวัสดุปลูกกล้วยไม้ที่มีราไมคอร์ไรซา
สำหรับการเพาะปลูกกล้วยไม้โดยวิธีการนี้ สามารถเพาะเมล็ดกล้วยไม้ปริมาณมากได้ จึงเหมาะสำหรับผู้สนใจทั่วไป โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้และผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในเชิงพาณิชย์
ต้องการผู้ประกอบการที่สนใจร่วมพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี ก่อนผลิต / ลงทุนเชิงพาณิชย์
ผู้เหมาะนำเทคโนโลยีไปลงทุน