วิธีการ “เลี้ยงหอยแมลงภู่รูปแบบแพเชือก” ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าเท่าตัว โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่าย และมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี แก้ปัญหาและข้อจำกัดการเลี้ยงแบบเดิมที่ใช้วิธีปักไม้ซึ่งไม่คงทน ช่วยยกระดับระบบการผลิตหอยแมลงภู่ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่
“การเลี้ยงหอยแมลงภู่” ในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้วิธีเลี้ยงแบบดั้งเดิม คือใช้หลักไม้ เช่น ไม้ไผ่ ปักลงในทะเลบริเวณชายฝั่งเพื่อเป็นหลักให้ลูกหอยแมลงภู่ที่เกิดตามธรรมชาติมาเกาะอาศัยและเจริญเติบโตจนได้ขนาดที่สามารถจับขายได้ หลักไม้ดังกล่าว จะมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี ซึ่งต้องเสียค่าไม้และค่าแรงงานในการปักไม้ใหม่เป็นประจำทุกปี และมีข้อเสียหลายด้าน อาทิ ไม้มีความเปราะบางหักก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต หากโดนพายุพัดหักล้มก็จะทำให้ผลผลิตเสียหาย อีกทั้งยังเป็นการทำลายทัศนียภาพที่สวยงามทางทะเล กีดขวางทางเดินเรือ และถ้าใช้ไม้ที่มีความยาวไม่มากเมื่อน้ำขึ้นเต็มที่จะมองไม่เห็นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ ในปัจจุบันไม้หลักที่ใช้ในการเลี้ยงหอยแมลงภู่เริ่มหายากและราคาแพงขึ้น
วิธีการ “เลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแพเชือก” ได้รับการคิดค้นและพัฒนารูปแบบใหม่ในการเลี้ยง สามารถเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นมากกว่า 100 % ใช้วัสดุที่หาง่าย ทนทาน มีอายุการใช้งานนานหลายปี โดยสามารถประยุกต์ใช้และปรับรูปแบบการเลี้ยงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกันได้ ถือเป็นการยกระดับการเลี้ยงหอยแมลงภู่ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกร ที่ผ่านมาได้มีการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป ส่งผลให้มีการเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแพเชือกกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ชลบุรี ระยอง สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง เป็นต้น
ผู้เหมาะนำเทคโนโลยีไปลงทุน