รายละเอียด
สรุปและเรียบเรียงโดย Tech2Biz
ที่มา www.theverge.com
การเชื่อมกันระหว่างสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวที่ปรากฏแต่เฉพาะในหนังไฮไฟอีกต่อไป เมื่อ Elon Musk ประกาศตั้งบริษัท “Neuralink” เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ ช่วยรักษาโรคและยกระดับการทำงานของสมองมนุษย์
Elon Musk เป็นหนึ่งในซีอีโอระดับโลกที่โด่งดังที่สุดในยุคปัจจุบัน เขาคือผู้พลิกโฉมวงการรถยนต์และอวกาศด้วยการก่อตั้งบริษัท Tesla พัฒนานวัตกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไร้คนขับ ระบบกักเก็บพลังงาน และแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า “ฟอร์ด” ไปแล้ว อีกทั้งบริษัท SpaceX ผู้บุกเบิกด้านการสำรวจอวกาศ พัฒนาการให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายดาวเทียมและจรวดส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร การประกาศจัดตั้งบริษัท “Neuralink” เมื่อเร็วๆนี้จึงเป็นการพลิกโฉมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกอีกครั้ง
การเชื่อมระหว่างสมองของมนุษย์กับสมองกลในหนังเรื่อง "The Matrix"
ข่าวการตั้งบริษัท “Neuralink” สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงไอทีและวิทยาศาสตร์มากที่สุดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา Tech2Biz ขอสรุปประเด็นหลักที่น่าสนใจดังนี้
- เป้าหมายของบริษัท Neuralink คือการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมสมองของมนุษย์เข้ากับสมองกล โดยการฝังอุปกรณ์ลงไปในสมองเพื่อช่วยให้สมองของมนุษย์ผสานรวม (merge) กับซอฟต์แวร์และปัญญาประดิษฐ์เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งจะช่วยในเรื่องความจำและทำให้มนุษย์สามารถเชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้
- Neuralink กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา “Neural Lace” ส่วนเชื่อมเส้นประสาทเพื่อช่วยในการฝังขั้วไฟฟ้าเข้าไปในสมอง ซึ่งอุปกรณ์นี้จะช่วยให้มนุษย์สามารถอัพโหลดความคิดต่างๆ เข้าไปในคอมพิวเตอร์ และสามารถดาวน์โหลดข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เข้าสู่สมองได้
- neural lace มีลักษณะเป็นตาข่ายขนาดเล็กมากซึ่งจะถูกฉีดเข้าสู่สมอง เพื่อไปผสานรวมกับเซลล์สมอง อีกทั้งเซลล์สมองที่เกิดใหม่ก็จะสามารถเจริญล้อมรอบตาข่ายนี้ ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างตาข่ายนี้กับเซลล์สมองและทำงานร่วมกันได้
neural lace
ภาพจาก http://gizmodo.com
- ปัจจุบัน neural lace ยังอยู่ระหว่างการวิจัยทดสอบในหนู Neuralink มีแผนการที่จะทดสอบกับคนให้เร็วที่สุด และมีความเป็นไปได้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างสมองมนุษย์และคอมพิวเตอร์จะสามารถทำได้แบบไร้สาย (wireless) ด้วย
- Musk มีความหวังว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อระหว่างสมองคนกับคอมพิวเตอร์นี้นอกจากจะช่วยรักษาโรคแล้ว ยังเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถของมนุษย์เพื่อให้สามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเติบโตและคาดว่าจะเข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์ในอนาคตด้วย
- คาดว่าผลิตภัณฑ์แรกๆ ที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีนี้น่าจะเป็นการรักษาโรคและความผิดปกติต่างๆ เช่น โรคลมบ้าหมู โรคพาร์กินสัน หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นตลาดผู้ป่วยที่มีขนาดใหญ่ หลังจากนั้นน่าจะเป็นด้านการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทางสมองของมนุษย์ เช่น กระบวนการคิดและการเรียนรู้จดจำ
- อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น บริษัทฯ ยังคงต้องฝ่าฟันอีกหลายด้านในการพัฒนาเทคโนโลยีให้สมบูรณ์ก่อนที่จะใช้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในการใช้ วิธีการปลูกถ่ายเพื่อฝังอิเล็กโทรดให้มีความเสถียรในสมอง การหาอาสาสมัครที่เป็นมนุษย์เพื่อร่วมทดสอบ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังต้องอาศัยระยะเวลาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงาน การเก็บข้อมูลและการสั่งการของเซลล์สมองที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โดย Musk ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารวานิตี้แฟร์ ว่า การผสมผสานเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าไปในสมองบางส่วนนั้น คาดว่าจะมีความก้าวหน้าชัดเจนขึ้นในอีกราว 4-5 ปีข้างหน้า ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าที่เทคโนโลยีจะใช้การได้
นับเป็นข่าวสารนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นและก่อให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในขณะนี้ โดยอาจจะสามารถพลิกโฉมการรักษาโรคและการทำงานของสมองให้ก้าวกระโดดไปสู่วิทยาการของโลกอนาคตมากยิ่งขึ้น